กลุ่มแฝกหลวง ผลิตภัณฑ์หญ้าแฝกตามพระราชดำริเศรษฐกิจแบบพอเพียงของกลุ่มแม่บ้าน
บ้านซาง หมู่ที่ 4 ตำบลขี้เหล็ก อำเภอแม่ริม
จังหวัดเชียงใหม่
ประวัติความเป็นมาของกลุ่มแฝกหลวง กลุ่มแฝกหลวง
ตั้งอยู่เลขที่ 48 หมู่ที่ 4 ตำบลขี้เหล็ก อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
เป็นกลุ่มจักรสานต้นแฝก เพื่อเป็นผลิตภัณฑ์หญ้าแฝกตามพระราชดำริเศรษฐกิจแบบพอเพียง
ของกลุ่มแม่บ้าน บ้านซาง โดยได้เกิดกลุ่มขึ้น เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2550
มีสมาชิกกลุ่มแรกเริ่ม จำนวน 3 คน คือนางสมบูรณ์ โรจนนิล (ปัจจุบันเป็นประธานกลุ่ม)
นางจันทร์เพ็ญ ชัยวุฒิ และนางพลอย คำขาว
และขยายกิจกรรมและเพิ่มจำนวนสมาชิกขึ้นตามลำดับ
โดยมีการจัดตั้งกลุ่มขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2550
ปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่ม จำนวน 23 คน
วัตถุประสงค์การก่อตั้งกลุ่ม
1.
สนับสนุนกิจกรรมการใช้เวลาว่างของกลุ่มสตรีให้เกิดประโยชน์
2.
ส่งประกอบอาชีพแก่กลุ่มอาชีพสตรีแม่บ้าน โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์
เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นบนพื้นฐานพระราชดำริเศรษฐกิจแบบพอเพียง
3.
ส่งเสริมการรวมตัวของกลุ่มอาชีพสตรีแม่บ้าน และชุมชน
เพื่อสร้างเสริมทักษะการเรียนรู้ร่วมกันและความสามัคคีในชุมชน
4.
สร้างจิตสำนึกในการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยการปลูกแฝกและใช้สิ่งเหลือใช้ให้เกิดประโยชน์
เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืนของชุมชนและสังคม
ผลิตภัณฑ์
การทำผลิตภัณฑ์จากแฝก เริ่มต้นโดยกลุ่มแม่บ้านได้ไปอบรมการทำผลิตภัณฑ์จากแฝกซึ่ง
บริษัท ปตท. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ร่วมกับสำนักงานพัฒนาที่ดินอำเภอแม่ริม
เพื่อสนับสนุนการพัฒนาความรู้ประกอบอาชีพแก่กลุ่มอาชีพสตรีแม่บ้าน
ส่งเสริมการรวมตัวของกลุ่มอาชีพสตรีและ ส่งเสริมอาชีพให้แก่ชุมชน
เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยมีสมาชิกกลุ่มจำนวน 3 คน
ที่เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มได้นำมาทดลองทำผลิตภัณฑ์จากแฝก โดยเริ่มทำ กล่องใส่ดินสอ
และได้นำไปจำหน่ายที่ถนนคนเดินที่ในตัวเมือง
จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งจัดทุกวันอาทิตย์และได้รับการสนใจจากลูกค้า
และได้มีลูกค้าสั่งทำผลิตภัณฑ์ส่งให้เพื่อนำไปจำหน่ายต่อ จึงทำให้กลุ่มเริ่มขยาย
มีสมาชิกมาเข้าร่วมกลุ่มเพิ่มขึ้น และกลุ่มก็ได้คิดค้นพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ
เพิ่มขึ้นอีกหลายชนิด ได้แก่
1. กล่องใส่ดินสอ/ปากกา
2.
หมวกรูปแบบต่างๆ
3. กระเป๋าต่างๆ
4. พาน
5. กระบุง
6. ถุงหอมดับกลิ่น
7. พานบายศรี
8. เข็มกลัด
แหล่งที่มา : http://baansang.blogspot.com/2008/04/blog-post_05.html
หญ้าแฝก (Vetiveria spp.)
หญ้าแฝก เป็นพืชตระกูลหญ้าที่พบอยู่ทั่วไปตามภาคต่างๆ ของประเทศ สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินเกือบทุกชนิด ทนต่อสภาพความแห้งแล้ง ความเปียกแฉะและสภาพน้ำท่วมขังใด้ดี เพราะมีระบบรากลึกและใบแคบ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Vetiveria spp. หญ้าแฝกขึ้นเป็นกอใหญ่ ขนาดของกอประมาณ 5-20 เซนติเมตร มีความสูงของลำต้นประมาณ 1-1.5 เมตร ใบแคบยาวประมาณ 75 เซนติเมตรกว้าง 4-10 มิลลิเมตร มีรากเป็นกระจุกเหมือนใยฟองน้ำ สามารถดูดซับน้ำได้ดี ถ้านำมาปลูกเป็นแถวจะช่วยในการดักตะกอนดินและป้องกันการพังทลายของดินได้ดี
วัตถุประสงค์
การปลูกหญ้าแฝกเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- เพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ
- เพื่อป้องกันการกัดชะการพังทลายของดิน
- เพื่อปรับปรุงสภาพพื้นที่เสื่อมโทรม
ชนิดพันธุ์หญ้าแฝก
หญ้าแฝกที่นิยมปลูกกันมากในประเทศมีหลายสายพันธุ์ แต่ที่สามารถเจริญเติบได้ดีบนพื้นที่สูง ที่พบตามหน่วยจัดการต้นน้ำมี 6 สายพันธุ์ ได้แก่
- พันธุ์แม่ลาน้อย
- พันธุ์ศรีลังกา
- พันธุ์อินเดีย
- พันธุ์แม่ฮ่องสอน
- พันธุ์เชียงใหม่
- พันธุ์สุราษฎร์ธานี
การขยายพันธุ์หญ้าแฝก
การขยายพันธุ์หญ้าแฝกที่นิยมกันมาก ง่าย และรวดเร็วได้แก่การแยกหน่อแล้วนำไปชำในแปลงเพาะหรือในถุงชำ ซึ่งมีวิธีการดังนี้
1. นำหญ้าแฝกที่เป็นกอมาตัดใบออกให้เหลือความยาวของต้นประมาณ 20 เซนติ เมตร และความยาวของรากประมาณ 5 เซนติเมตร แล้วแยกออกเป็นต้นๆ คัดเลือกต้นที่สมบูรณ์มีรากติดนำลงปลูกในถุงชำขนาด 5 x 8 นิ้วที่มีส่วนผสมของดินร่วนปนทรายและขี้เถ้าแกลบ จากนั้นนำถุงชำมาวางเรียงในที่แจ้งให้เป็นแถว แถวละประมาณ 10 ถุง ระหว่างแถวห่างกัน 1เมตร รดน้ำอย่างสม่ำเสมอ
2. การเพาะชำในแปลงเพาะแบบยกร่อง โดยการนำหญ้าแฝกที่เตรียมไว้ในข้อที่ 1 มาปลูกในแปลงขยายพันธุ์ที่เตรียมดินโดยการทำเป็นแปลงยกร่องกว้างขนาด 1-1.5 เมตร ความห่างระหว่างแปลงประมาณ 1 เมตร ความยาวของแปลงแล้วแต่ความเหมาะสม โดยนำหญ้าแฝกมาปลูกห่างกันระหว่างต้น 20 เซนติเมตร ในพื้นที่ 1 ไร่ สามารถปลูกหญ้าแฝกได้ประมาณ 3,200 กอ รดน้ำอย่างสม่ำเสมอ หญ้าแฝกจะเจริญเติบอย่างรวดเร็ว และสามารถแตกหน่อได้ประมาณ 40-50 เท่าในระยะเวลา 4-5 เดือน
การปลูกหญ้าแฝก
หญ้าแฝกสามารถปลูกได้ทุกภาคของประเทศ โดยเฉเพาะภาคเหนือซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธาร และมีปัญหาเกี่ยวกับการพังทลายของหน้าดิน (Soil-erosion) การปลูกหญ้าแฝกแบ่งตามสภาพพื้นที่ได้ 3 ประเภท ได้แก่
- ปลูกในพื้นที่ป่าที่ล่อแหลมต่อการกัดชะการพังทลายของดิน
- ปลูกในพื้นที่เกษตรกรรม
- ปลูกในพื้นที่อื่นๆที่มีล่อแหลมต่อการกัดชะการพังทลายของดิน
การบำรุงดูแลรักษา
1. ระยะเวลาในการปลูกหญ้าแฝก ควรปลูกในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน
2. การใส่ปุ๋ยจะช่วยทำให้หญ้าแฝกเจริญเติบโตได้เร็วขึ้น โดยปกติจะใสปุ๋ยปีละ 2 ครั้ง ใช้ปุ๋ยไดแอมโมเนี่ยมฟอสเฟต (DAP) และปุ๋ยสูตร 15:15:15: ในอัตราครึ่งช้อนชา/ต้น
3. การตัดแต่งต้นหญ้าแฝก ควรมีการตัดแต่งใบอย่างสม่ำเสมอทุก 3-4 เดือน เพื่อป้องกันมิให้หญ้าแฝกออกดอก ช่วยให้หญ้าแฝกแตกหน่อเพิ่มขึ้น และยังช่วยควบคุมไม่ให้หญ้าแฝกสูงเกินไป ทำให้หญ้าแฝกชิดติดกันเป็นกำแพงแน่นและ ทำหน้าที่กรองตะกอนดินได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
4. การดายวัชพืชในระยะแรกที่ปลูก ควรมีการดายวัชพืชช่วย จะทำให้หญ้าแฝกเจริญเติบโตได้ดีและแตกหน่อเร็วขึ้น
ประโยชน์ของหญ้าแฝก
หญ้าแฝกเป็นพืชมหัศจรรย์ ทุกส่วนของลำต้นสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ เช่น
ต้นและใบ
- ช่วยกรองเศษพืชและตะกอนดิน
- ใช้ทำวัสดุมุงหลังคา
- ใช้ทำเชือก หมวก ตะกร้า ฯลฯ
- ใช้เป็นวัสดุคลุมดิน
- ใช้ทำปุ๋ยหมัก
ราก
- ดูดซับน้ำและช่วยรักษาความชุ่มชื้นในดิน
- ดูดซับแร่ธาตุและอาหาร
- ดูดซับสารพิษ
- ช่วยปรับปรุงสภาพดินทำให้คุณสมบัติทางกายภาพของดินดีขึ้น
- ใช้ทำเครื่องสมุนไพรและเครื่องประทินผิว
- ใช้กลั่นทำน้ำหอม
- ใช้ป้องกันแมลงศัตรูพืช
แหล่งที่มา : http://baansang.blogspot.com/2008/04/blog-post_05.html